กรณีสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชาจำกัดวีซ่าคนไทย จาก 60 วัน เหลือ 7 วัน นายนิกรเดช ระบุว่า ได้รับทราบรายงานแล้วว่า ทางกัมพูชาลดวันลงเหลือ 7 วัน ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้ปรับลดแล้วเช่นเดียวกัน เหลือ 7 วันเหมือนกัน แต่ยังไม่แน่ใจว่า จะดำเนินการไปถึงเมื่อไหร่ รอให้สถานการณ์ดีขึ้น และรอให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้ากลับมาคุยกัน เรื่องของจำนวนวัน ในการเข้าประเทศอีกครั้ง


สำหรับการประชุม JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ฝ่ายกัมพูชายืนยันมาแล้วใช่หรือไม่ ว่าจะยังมีอยู่เหมือนเดิม นายนิกรเดช ยืนยันว่า ยังมีอยู่เหมือนเดิม ทั้งสองฝ่ายออกมาพูดแล้ว ว่าตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปสู่การประชุม JBC และพัฒนาการในทางบวกที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นในการประชุม JBC


เมื่อถามถึงกระแสข่าว ที่ประชาชนบริเวณชายแดน เริ่มออกมาสร้างบังเกอร์หลบภัย เนื่องจากความตื่นกลัวว่า อาจเกิดความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง นายนิกรเดช ย้ำว่า ตอนนี้มีความตึงเครียดน้อยลงแน่นอน เพราะเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีการปรับกำลัง กลับไปอยู่จุดเดิมของปี 67 เป็นการกลบคูเลต ซึ่งตนยังคิดว่าสถานการณ์อยู่ในสภาวะที่เปราะบาง ส่วนต้องมีข้อกังวลหรือระวังอะไรหรือไม่ ตนคิดว่ายังไม่ถึงจุดนั้น แต่สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมหรือไม่ ก็คิดว่า ยังค่อยเป็นค่อยไป แต่สัญญาณที่ออกมาตอนนี้ เป็นสัญญาณที่ดีมากจากทั้งสองฝ่าย แต่ยังมีความเปราะบางอยู่


เมื่อถามถึงกรณีที่กัมพูชายังยืนยันตามเดิมในส่วนของ 4 พื้นที่พิพาทที่จะเสนอต่อศาลโลก ว่ายังไม่ขอเจรจานั้น จะมีการโน้มน้าวให้กัมพูชานำเรื่องนี้ ขึ้นมาบนโต๊ะเจรจาหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า ตอนนี้อย่างที่รู้ว่า ทั้งสองฝ่ายเริ่มคุยกันเรื่องวาระการประชุมแล้ว ขณะนี้ยังเร็วเกินไป ที่จะบอกว่ามีการคุยเรื่องข้อพิพาท 4 พื้นที่หรือไม่ ทั้งสองฝ่ายอาจมีท่าทีสงวนว่าจะคุยกัน