วันจันทร์ ที่ 21 เม.ย. 2568
เปิด 3 ชีวิตคนไทยสุดสมถะ! ผู้ถือหุ้นใหญ่ “ไชน่า เรลเวย์” สร้างตึก สตง.
.
1 เมษายน 2568 สำหรับประเด็นของบริษัทจีน "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10" ซึ่งเป็นบริษัทที่รับเหมาก่อสร้างตึก สตง. ที่ถล่มลงมา ซึ่งเราไปตรวจสอบข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัทแห่งนี้ได้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ปี 2561 โดยพบว่าบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท
.
จำแนกเป็นสัดส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย 51 ล้านบาท จำนวน 510,000 หุ้น สัดส่วน 51%เป็นบุคคล 3 ราย คือ นายโสภณ มีชัยถือหุ้น 40.7997% 2.นายประจวบ ศิริเขต ถือหุ้น 10.2% และนายมานัส ศรีอนันท์ 0.0003% ส่วนสัดส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติจีน 49 ล้านบาท จำนวน 490,000 หุ้น สัดส่วน 49% เป็นบุคคล 1 ราย คือ นายชวนหลิง จาง
.
หลังจากเมื่อวานเราไปบริษัทแห่งนี้พบว่าเป็นตึกแถวธรรมดา ที่มีหลายบริษัทเปิดอยู่ในตึกเดียวกัน ซึ่งสภาพของตึกแถวแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นบริษัทที่สามารถประมูลโครงการมูลค่า 2.3 พันล้านบาทได้ และตามหานายโสภณ หนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักของไทย แต่ยังไม่พบตัว
—--หลักฐานชัด "โสภณ" อยู่บ้านก่อนตึกถล่ม—-
ขณะเดียวกันไทยรัฐทีวียังคงตามหาตัวนายโสภณ มีชัย หนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เพื่อให้ชี้แจงกับเรื่องที่เกิดขึ้น วันนี้เราไปตามหา นายโสภณ ในซอยประชาอุทิศ 54 แยก 9 พบว่าภายในบ้านของนายโสภณ มีความเคลื่อนไหวต่างจากเมื่อวานนี้
.
ซึ่งเย็นวันนี้ที่นักข่าวของเราไปตรวจสอบ พบมีมอเตอร์ไซค์ หายไป 1 คัน จากที่เมื่อวานนี้มีมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ในบ้าน 3 คัน ส่วนประตูรั้ว และประตูกระจกของบ้านปิดเงียบล็อคกุญแจ เสมือนไม่มีบุคคลอาศัยอยู่ภายใน
.
ทีมข่าวไทยรัฐทีวีเลยไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในซอยบ้านของ นายโสภณ พบว่าวันที่ 28 มีนาคม 2568 ก่อนเกิดเหตุตึกถล่ม พบว่าตอนเวลา 06.52 น. ยังเห็น “นายโสภณ” สวมเสื้อสีขาวเดินออกจากบ้านขึ้นรถเก๋งสีขาว ขับออกจากบ้านไป
—-พบหุ้นส่วน บ.ไชน่า เรลเวย์ แชะรูปคู่—-
จากการตรวจสอบเฟซบุ๊ก พบว่า นายมานัส ศรีอนันท์ หรือ "เฮียโต๊ด" (หุ้น 0.0003%) และนายประจวบ ศิริเขต (หุ้น 10.2%) ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีการถ่ายรูปกำลังยืนจับมือคู่กัน ในโกดังสินค้าที่ไหนซักที่ โดยภาพลงไว้เมื่อ 26 ส.ค. 2560
—--แฉ มานัสเป็นนักเลงไก่-ไม่มีฐานะ—-
หลังทราบว่า นายมานัส หรือ "เฮียโต๊ด" ผู้ถือหุ้น 0.0003% เช่าห้องพักอาศัยอยู่กับเมีย ใกล้กับบริษัทฯ แต่เมื่อเราไปพบกับป้านา (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นคนสนิทนายมานัส บอกว่า คนแถวนี้จะรู้จักในนาม "เฮียโต๊ด" มากกว่านายมานัส และไม่ได้อยู่แถวนี้ แต่พักอยู่บนตึกบริษัทไชน่าฯ
.
ซึ่งเขามีอาชีพเป็นพนักงานรับจ้างของบริษัทขายยางรถยนต์แถวนี้ ส่วนเมียเขาก็เป็นแม่บ้าน ซึ่งเท่าที่ทราบ 2 ผัวเมียคู่นี้ทำงานอยู่กับเฮียเจ้าของบริษัทยาง มากว่า 10 ปี ซึ่งตัวเองเห็นว่า เมียของ "นายโต๊ด" เอากระเป๋าเสื้อผ้า และเงินจำนวนหนึ่งให้ "นายโต๊ด" ตั้งแต่วันอาทิตย์ ซึ่งก็ไม่รู้จะเกี่ยวกับเหตุตึก สตง.ถล่มหรือไม่
.
เท่าที่รู้จัก "โต้ด" ชอบตีไก่ชน และมักจะมาเลี้ยงไก่ด้วยกันเป็นประจำ แต่ระยะหลังเหมือนไม่เล่นไก่แล้ว ส่วนเรื่องฐานะ เท่าที่ดูก็ไม่ได้เป็นคนร่ำรวยอะไร เป็นเพียงพนักงานขับรถส่งยาง รับเงินเดือน ไม่ได้ใช้แบรนด์เนมอะไร เป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ก็ไม่เคยทะเลาะกับใคร เวลาเจอก็ทักทายกันปกติ
.
เรายังได้ข้อมูลจากชาวบ้านมาด้วยว่า "เฮียโต๊ด" เซ็นค้างค่าเบียร์ไว้ ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 68 4 ครั้ง แต่มีการมาชำระยอดทั้งหมดไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม จากนั้นก็ไม่มีใครเจอ "เฮียโต๊ด" อีกเลย
—-"ประจวบ" ยันถือหุ้นจริง-ปัดหนี—-
ต่อมาทีมข่าวไทยรัฐทีวี ลงพื้นที่ไปอำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านภรรยาของนายประจวบ เจอกับคุณประจวบ กำลังซ่อมรถเก๋งอยู่ เจ้าตัวยอมรับว่าถือหุ้นอยู่ บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จริง จุดเริ่มต้น คือตั้งแต่ปี 2545 ต้นทำอาชีพค้าขาย จนมารู้จักกับเถ้าเเก่ ก็ชวนมาทำธุรกิจยางรถยนต์ ส่งขายออกต่างประเทศ และขยับขยายมาเรื่อยๆ
.
จนมาก่อตั้งบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 รายชื่อคนไทยที่ถือหุ้นไม่พอ จึงมีชื่อตนไปด้วย เวลาจัดซื้อจัดจ้างก็อาจจะมีชื่อตนไปเกี่ยว ก็ถือว่าตนเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง เป็นการลงทุนร่วมกัน ระหว่างจีน และไทย ตนไม่ได้กังวลอะไร ไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะทำถูกต้อง คาดว่าจะมีการชี้แจงหลังจากนี้แน่นอน เพียงแต่รอผู้ใหญ่เขาสั่งมาอีกที
.
สำหรับหุ้น 10.2% ก็รับรายได้เป็นเงินเดือนทั่วไป เพราะตนจะดูเรื่องการส่งสินค้ายานยนต์ ยางรถเป็นหลัก และมีเงินปันผลรายปี ส่วนที่กลับมาที่บ้านภรรยายืนยันว่าไม่ได้หนี แต่กลับมาดูแลแม่ภรรยาที่ป่วย ประกอบกับใกล้เทศกาลสงกรานต์แล้ว ก็อยากกลับมาพักผ่อน
.
อย่างไรก็ตามหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป